อนุลักษณ์จันทร์สุข กลับบ้านเก่า

อนุลักษณ์จันทร์สุข กลับบ้านเก่า สุดยอดนักคิกบ็อกเซอร์ระดับพระกาฬ ทนแรงคิดถึงจากแฟนมวยไม่ไหว ขอโดดข้ามสายลุยมวยไทย ในรอบ 8 ปี

อนุลักษณ์จันทร์สุข หากให้เลือกหนึ่งในนักกีฬาที่แฟนมวยทั่วประเทศต่างเรียกร้องอยากเห็นขึ้นสังเวียนมากที่สุด แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อของ นี้แน่นอน สุดยอดนักคิกบ็อกเซอร์ชาวบุรีรัมย์ เจ้าของแชมป์โลกมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง 12 สมัย ที่ขึ้นโชว์ฝีมือครั้งล่าสุด ต้องย้อนไปถึงเดือนต.ค. 65 ในศึก วันไฟต์ไนท์ 3 โดยสามารถเอาชนะ “โมฮัมเหม็ด บาวตาซา” ไปได้ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต

อนุลักษณ์ จันทร์สุข การห่างหายจากสังเวียนไปนานพักใหญ่เลยเกือบหนึ่งปีได้ทำให้ตลอดช่วงที่ผ่านมา ต่างมีเสียงเรียกร้องจากแฟนๆ บนโลกออนไลน์จำนวนมากว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นสุดยอดนักคิกบ็อกเซอร์รายนี้

แล้วเขาก็ได้กลับมาขึ้นสังเวียนโชว์ฝีมืออีกครั้ง ซึ่ง “เจ้าตัว” ก็ยอมรับว่าตนรับรู้ถึงกระแสที่ทางแฟนมวยเรียกร้องของแฟนคลับอยู่ตลอดเวลา และตนเองก็คิดถึงแฟนมวยทุกคนมากด้วยเช่นกันแม้ “เจ้าตัว” จะประกาศชัดเจนมาโดยตลอดว่าเป้าหมายอันสูงสุด คือการคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต มาครองให้ได้แน่นอน แต่ในเมื่อโอกาสที่จะได้ขึ้นชกในสนามมวยเวทีลุมพินีซึ่งเป็นสนามระดับตำนานของเมืองไทย ถูกหยิบยื่นเข้ามา ทำให้ “เจ้าตัว” ไม่ลังเลที่จะตอบตกลงเพื่อขึ้นชกกติกามวยไทยอีกครั้งเลย หลังจากเจ้าตัวเคยลงศึกซูเปอร์ไฟต์มวยไทยแบบมิได้นัดหมายกับ “ตะวันฉาย ” ที่ทั้งคู่ได้ทำการตกลงเป็นมวยขัดตาทัพใน ONE เมื่อเกือบ 2 ปีก่อนนานมาแล้ว

และเหตุผลที่ผมได้พูดและตอบตกลงว่าจะมาชกมวยไทยในไฟต์นี้ เพราะผมอยากกลับมาชกเวทีลุมพินีอีกครั้งหนึ่งระลึกความหลัง เวทีที่ผมได้ก้าวขึ้นมาชกครั้งแรก และแฟนมวยก็เรียกร้องอย่างมากอยากเห็นผมกลับมาชกด้วย ซึ่งก็เป็นการดีมากครับที่ได้ชกมวยไทยอีกครั้ง เพราะสนามมวยลุมพินี คือสนามมาตรฐานดีมาก เป็นสนามที่ได้การยอมรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติและทั่วโลก ผมดีใจมากครับและจะโชว์ผลงานให้ดีที่สุดแน่นอนทำอย่างเต็มที่

สำหรับการปรับตัวเพื่อกลับมาต่อยมวยไทยในรอบเกือบ 2 ปี “เจ้าตัว” ยืนยันว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะตนฝึกฝนมวยไทยมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พร้อมยอมรับว่ารู้สึกดีใจมากที่จะได้ขึ้นชกต่อหน้าแฟนๆ เต็มความจุสนามมวยลุมพินีซึ่งเป็นสนามแจ้งเกิดของตนเองอีกครั้ง

มวยไทยมันอยู่ในสายเลือดของเราอยู่แล้ว ปรับตัวไม่ยากครับ เพราะเราฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว แค่ปรับตัวนิดหน่อยเราก็กลับมาชกได้แล้ว รู้สึกดีใจมากครับ ที่ได้กลับมาชกมวยไทย ต่อหน้าแฟนมวยเยอะๆอีกครั้งครับสำหรับการกลับมาคืนสังเวียนมวยไทยในครั้งนี้ “เจ้าตัว” จะต้องพบกับ “เอ็ดดี อาบาโซโล” นักชกจอมเก๋าวัย 36 ปี จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมจากไฟต์ล่าสุด ที่จัดการเก็บชัยชนะเหนือ “นิคลาส ลาร์เซน” ในศึก วันไฟต์ไนท์ 8 เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ในกติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต

สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง เป็นนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงระดับมวยแม่เหล็กแห่งวงการคิกบ็อกซิ่งอันดับต้น ๆ ของโลก พ่วงดีกรีแชมป์โลกมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง 12 สมัย จัดเป็นมวยซ้ายอันตรายคนหนึ่งของยุค แม้จะเปิดตัวไม่สวยงามใน วัน แชมเปียนชิพ แต่ สิทธิชัย เชื่อว่าเขาจะสามารถกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในฐานะนักชกที่เก่งกาจที่สุดในโลกได้

ก่อนหน้านี้ที่จะได้เห็น สิทธิชัย กลับมาวาดลวดลายบนสังเวียนกันครั้งนี้ เราจะพาไปเจาะลึกเส้นทางชีวิตความเป็นอยู่ของเขาที่หล่อหลอมให้กลายเป็นยอดฝีมือคิกบ็อกซิ่งฝีมือเยี่ยมที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในเวทีโลกอย่างทุกวันนี้ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักกันเลยทีเดียว

สิทธิชัยก่อนที่เจ้าตัวจะเปลี่ยนชื่อในนามมวยเข้าตัวก็ได้มีชื่อนามจริงก็คือว่า “ชื่อนายอนุลักษณ์ นามสกุล จันทร์สุข” ชื่อเล่นว่า “เมย์” เดือนที่เกิดเมื่อ 23 กันยายน 2534 อายุ 29 ปี และได้มีพี่น้องรวมกันและเป็นชายล้วน 3 คนหมดเลย โดยที่เขาเป็นคนกลาง บิดาชื่อ “นายสมาน จันทร์สุข” เป็นอดีตนักมวยเก่าในนามชื่อ “สมาน เมืองรอง” และมารดาชื่อ “นางสมมุ่ง” มีภูมิลำเนาบ้านเกิดอยู่ที่ ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

เมื่อครั้งเยาว์วัย สิทธิชัย เรียนหนังสือที่ โรงเรียนบ้านหนองทองลิ่ม ด้วยเพราะพ่อเป็นนักมวยเก่าเขาจึงมีพ่อเป็นครูมวยคนแรก โดยเริ่มหัดมวยเมื่ออายุ 11 ปี เพื่อไว้ป้องกันตัวแต่ สิทธิชัย มีเลือดนักสู้เห็นพ่อชกมวยแล้วเกิดแรงบันดาลใจจึงขอพ่อทดลองวิชาบนสังเวียนพ่อพาไปเปรียบมวยในงานโรงเรียนบ้านเสลาที่ ต.ทุ่งแสงทองปรากฏว่าเขาแพ้น็อก เพราะเจอมวยเที่ยวบินสูงกว่าถึง 10 ไฟต์แต่ก็ได้รับค่าตัว 150 บาทในวันนั้นการพ่ายแพ้ครั้งแรกไม่ได้ทำให้ สิทธิชัย ลดละความพยายาม เมื่อเห็นความมุ่งมั่นของลูก

พ่อจึงได้นำเขาไปฝากฝังเป็นลูกศิษย์ของ “ครูบุญเยี่ยม พลเศษ” ผู้ได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อมวยเด็ก” และเป็นถึงเจ้าของค่ายด้วยมวยศิษย์บุญเยี่ยมใน จ.บุรีรัมย์ โดย สิทธิชัย ใช้ชื่อในการชกครั้งแรกว่า “เดชพยัคฆ์ ศิษย์ครูเยี่ยม”หลังจากได้พัฒนาฝีมืออย่างจริงจัง สิทธิชัย ก็ออกตระเวนชกตามเวทีมวยในต่างจังหวัดจนสั่งสมกระดูกมวยและประสบการณ์ได้แกร่งกล้าพอตัว ครูบุญเยี่ยม จึงผลักดันให้เข้ามาชกที่กรุงเทพฯ ตอนอายุ 15 ปี โดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “สิทธิชัย ศิษย์ครูเยี่ยมในเวลาไม่นาน สิทธิชัย คว้าแชมป์มวยไทยจากหลายรายการ โดยเป็นแชมป์มวยรอบโตโยต้ามาราธอนพิกัด 70 กก. ถึงสองสนามกันเลยทีเดียว, และก็ได้แชมป์ประเทศไทยรุ่นเวลเตอร์เวต และ แชมป์ลุมพินีแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวตอีกด้วย

อนุลักษณ์จันทร์สุข กลับบ้านเก่า